การเลือกท่อ HDPE สำหรับงานระบบประปาไม่ใช่เรื่องที่ควรตัดสินใจแบบผิวเผิน เพราะท่อที่เหมาะสมจะช่วยลดปัญหาการรั่วซึม ประหยัดค่าบำรุงรักษา และยืดอายุการใช้งานของระบบได้อย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งต้องสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ต้องการส่ง หากเลือกท่อเล็กเกินไปจะทำให้เกิดแรงดันสูงเกินมาตรฐาน ในทางกลับกัน หากใหญ่เกินไปก็จะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ วิศวกรมักใช้สูตรคำนวณอัตราการไหลเพื่อหาขนาดที่เหมาะสม
ประเด็นถัดมาคือ ค่า Pressure Rating (PN) ซึ่งบ่งบอกความสามารถในการรับแรงดันของท่อ ระบบประปาในเมืองมักใช้ท่อที่มีค่า PN 10 ถึง PN 16 ขึ้นไป ขณะที่งานชลประทานหรือระบบส่งน้ำระยะไกลอาจต้องการ PN สูงกว่า การเลือก โรงงานท่อ HDPE ที่มีมาตรฐานครบถ้วน
http://pspipe.co.th จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าท่อผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน TIS หรือ ISO
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบ คุณสมบัติของวัตถุดิบ ท่อ HDPE คุณภาพดีจะใช้เม็ดพลาสติก PE100 หรือ PE80 ที่ให้ความทนทานสูง ต้านทานการแตกร้าวจากแรงกระแทก และทนต่อสารเคมีได้ดี ผู้ซื้อควรขอดูเอกสารรับรองคุณภาพวัตถุดิบจากผู้ผลิตด้วย
อีกหนึ่งปัจจัยที่มักถูกมองข้ามคือ วิธีการติดตั้ง ท่อ HDPE สามารถเชื่อมต่อด้วยวิธี Butt Fusion, Electrofusion หรือใช้ข้อต่อแบบกล ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การเลือกท่อที่รองรับวิธีการติดตั้งตามบริบทของพื้นที่จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก
สุดท้าย อย่าลืมพิจารณาการรับประกันและบริการหลังการขาย จากผู้ผลิต เพราะท่อที่มีคุณภาพมักมาพร้อมกับการรับประกันอย่างน้อย 10-20 ปี พร้อมทีมช่างที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน การเลือกท่อ HDPE อย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาในระยะยาว แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและยั่งยืน